ประวัติศาลาแดง

                                                                                                                  หน้าแรก     รูป HD

                   วัดศาลาแดง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๓๔ (เดิม๔) หมู่ ๖ ถนนบางแวก ๑๕๘ แขวงบางไผ่ เขตบางแค    กรุงเทพมหานคร อยู่ในที่ชุมชน เป็นวัดโบราณที่เดิมเป็นป่า การคมนาคมไม่สะดวก ต้องอาศัยการเดิน   ทางด้วยเท้าเป็นส่วนใหญ่ ในช่วงแรกก่อนตั้ง วัดการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ต้องอาศัยเส้นทางดังกล่าว   เป็นหลัก บริเวณทางเดินมีศาลาพักร้อนหลังหนึ่งมุงด้วยกระเบื้องมอญสีแดงเป็นสัญลักษณ์ตามคำบอก   เล่าเป็นหลักฐาน จากอดีตเจ้าอาวาสและผู้สูงอายุหลายท่าน เดิมที่วัดมีเนื้อที่จำนวนประมาณ ๙ ไร่ ๒    รอดทอง ซึ่งเป็นเจ้าของโฉนดที่ดิน ในขณะนั้นได้ทำการถวายให้เป็นที่ก่อตั้งวัด เมื่อประมาณปีพ.ศ. ๒๔๑๙

หลักฐานการสร้าง
                 ตามหนังสือรับรองสภาพวัด ของกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการที่ ศธ.๐๔๐๕/๑๔๖๘๔ ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ว่าวัดศาลาแดงเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.๒๔๑๙ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ เป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นก่อนพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.๑๒๑.(พ.ศ.๒๔๔๖)
                 วัดศาลาแดง ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาจากเจ้าอาวาสและชาวบ้านมาแต่ครั้งอดีต เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ เป็นสถานที่ประกบพิธีกรรม และเป็นสถานที่จัด กิจกรรมของชุมชนในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงมาตลอด เพราะเป็นวัดที่อยู่ในชุมชน มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งเรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัย และการเดินทาง จึงทำให้มีพระภิกษุและสามาเณรอยู่จำพรรษาปีละกว่า ๑๐๐ รูป มีการจัดให้มีการศึกษาของพระภิกษุและสามเณร ทั้งแผนกนักธรรมและแผนกบาลี มีการตั้งศูนย์บริการการศึกษาตามอัธยาศัยเขตบางแค และจัดตั้งสูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์วัดศาลาแดง เพื่ออนุเคราะห์ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง
ประวัติการก่อสร้างอุโบสถวัดศาลาแดงหลักเก่า
               อุโบสถวัดศาลาแดงเดิม เป็นไม้ หลังคาสังกะสีอยูทิศเหนือสุดของวัด ติดกับศาลาการเปรียญของวัดในปัจจุบัน ต่อมาเป็นศาลาดิน เป็นที่บำเพ็ญกุศลและที่เรียนของเด็กนักเรียนชั้นป.เตรียม เมื่อวัดมีการเปิดโรงเรียนขึ้น และเมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๓ หลังจากโรงเรียนมีอาคารไม้แล้ว ได้ปรับปรุงเป็นเมรุ ฌาปนกิจเรื่อยมา จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๓๕ มีเมรุหลังที่ ๒ ขึ้น โดยกำนันบุญธรรม คุณสำเนียง ชันแสงสร้างถวายไว้ ทางทิศตะวันออกของวัด และปี พ.ศ.๒๕๓๘ พระครูสุนทรพิพัฒนโกศล เจ้าอาวาสเห็นสมควรปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อเตรียมสร้างอุโบสถหลังที่ ๓ ขึ้น จึงได้รื้อถอนเมรุหลังที่ ๑ ของวัดออกไป     อุโบสถหลังที่ ๒ เป็นอาคารทรงไทยสมัยนิยม ก่ออิฐถือปูน หน้าบันเป็นไม้สักสลักลวดลาย ขนาด ๕ ห้อง ยาว ๑๗.๕ เมตร กว้าง ๖ เมตร มี ๔ ประตู ฝีมือประณีตบรรจง มีพระประธานเนื้อโลหะงดงามมาก หล่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๘ ตรงกับสมัยหลวงปู่รอด วัดนายโรง เรียกว่า "หลวงพ่อใหญ่" ซึ่งได้อัญเชิญมาจากวัดนายโรง เขตบางกอกน้อย ธนบุรี โดยพระอธิการผล เกสโร พร้อมด้วยพระภิกษุ และศิษยานุศิษย์ นำเชิญมาทางน้ำ ล่องมาทางคลองบางเชือกหนังโดยเรือชะล่าขุดขนาดใหญ่ของนายฮ้ก ๒ ลำ ผูกเป็นแพ ล่องมาตามคลองถึงวัดโดยสวัสดิภาพ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๕  และฝังลูกนิมิตเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗(๓) ค่าก่อสร้าง ๑ หมื่นบาทเศษ ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๘๓ สร้างกำแพงแก้วรอบอุโบสถขึ้น และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐ ดำเนินการก่อสร้างซุ้มประตูกำแพงแก้ว รอบอุโบสถ ทั้งสี่ทิศ

ประวัติหลวงพ่อใหญ่พระประธานภายในอุโบสถ
             หลวงพ่อใหญ่ พระประธานภายในอุโบสถวัดศาลาแดง การอัญเชิญหลวงพ่อใหญ่จากวัดนายโรง เมื่อ ปีพ.ศ.๒๔๗๕ โดยล่องมาทางน้ำ (จากการสำรวจภายหลังเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓) เริ่มจากวัดนายโรง ประมาณ ๘๐๐ เมตร เลี้ยซ้ายเข้าคลองบางกอกใหญ่ถึงสามแยกหน้าวัดสุวรรณคีรี ผ่านเข้าคลองบางขุนศรี สี่แยกปากคลองมอญ วัดปากน้ำฝั่งใต้ วัดปากน้ำฝั่งเหนือ วัดเกาะ วัดกำแพง วัดพิกุล วัดตะล่อม วัดมะพร้าวเตี้ย เลี้ยวเข้าคลองบางเชือกหนัง เข้าคลองทวีวัฒนา มาถึงวัดศาลาแดง ระยะทางน้ำประมาณ ๒๘ กิโลเมตร

 ประวัติการสร้างอุโบสถ หลังใหม่ (โดยย่อ)
         -  เริ่มพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัลยา สิริวัฒนาพรรณวดี
ในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลา ๑๗.๐๙ น.
        -  ลงเสาเข็ม ในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลา ๑๒.๔๙ น.
        -  หล่อพระประธาน โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ
ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ เวลา ๑๓.๔๙ น.
       -  หล่อพระประธานส่วนที่สองที่จังหวัดพิษณุโลก
ในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ เวลา ๑๒.๔๙ น. ถึง เวลา ๑๕.๒๙ น.
      -  อัญเชิญพระประธานเข้าอุโบสถ ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙
      -  ยกช่อฟ้าครั้งที่ ๑ ด้านทิศตะวันตก ในวันเข้าพรรษา ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ (๓ ตัว)
      -  ยกช่อฟ้าครั้งที่ ๒ ด้านทิศตะวันออก ในวันออกพรรษา ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ (๒ ตัว)
      -  ยกช่อฟ้าครั้งที่ ๓ ด้านทิศตะวันออก ในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ (ตัวเอก)
โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโน วัดสระเกศราชวรวิหาร เป็นประธาน

   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับอุโบสถหลังใหม่
       -  เกิดเหตุการณ์ลมพายุใหญ่พัดต้นไม้,เสาลำโพง,ศาลา,โบสถ์ เสียหายหลายแห่ง เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐
       -  ลื้อถอนศาลาประชาตั้งพิรุฬห์ธรรม ในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๐ โดยนายเรียน ถนอมนาและนางละม้าย หลงทรัพย์
      -  พุทธาภิเษกมวลสาร และกดพิมพ์นำฤกษ์ พระพุทธชินราช รุ่นสร้างอุโบสถ์ ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง
      -  ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๑๒.๑๙ น. ถึง เวลา ๒๑.๑๙ น.
      -  โดยสมเด็จพระธรรมศีลาจารย์ วัดหนัง ราชวรวิหาร

  ประวัติเจ้าอาวาสวัดศาลาแดง
           พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ (ประจวบ) ฉายา อาทโร อายุ ๗๖ ปี พรรษา ๕๖ นักธรรมชั้นเอก
    วัดศาลาแดง  แขวงบางไผ่  เขตบางแค  กรุงเทพมหานคร เจ้าคณะแขวงบางแค

    สถานะเดิม
       ชื่อ ประจวบ นามสุกล สุดประเสริฐ
       เกิดวันอาทิตย์ที่ ๑๑ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ (ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๑)
       บิดาชื่อ นายฉุย มารดาชื่อ นางย้อย
       บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ที่ ๘ ตำบลศาลาธรรมสพน์ อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี
       บรรพชาอุปสมบท
       วันอังคารที่ ๒๖ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ วัน ๓ ฯ ๔ (วันอังคารแรมสิบเอ็ดค่ำเดือนสี่ปีวอก)
       ณ วัดศาลาแดง ตำบลบางไผ่ อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี
       มีพระสุธรรมมุนี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จังหวัดพระนคร เป็นพระอุปัชฌาย์

  วิทยฐานะ
      พ.ศ. ๒๕๐๕ สอบได้ น.ธ.เอก สำนักเรียนคณะเขตภาษีเจริญ-หนองแขม
      พ.ศ. ๒๕๔๓ สำเร็จการศึกษาสามัญระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กศน.เขตบางแค กรุงเทพมหานคร)
     พ.ศ. ๒๕๔๘ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศาสนศาสตรบัณฑิต (ศน.บ) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
     พ.ศ. ๒๕๕๑ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (ศน.ม) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
    พ.ศ. ๒๕๕๒ – ปัจจุบัน กำลังศึกษาระดับปริญญาเอก รัฐศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น